ทานิกุจิดูท่าทางอิ่มเอม ส่วนบทที่เล่นคือสาวนั่งดริ๊งก์ชอบข่มเหงที่มีความรักอันลุ่มหลงต่ออดีตอาจารย์
โอเมกุ : เป็นละครเวทีที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ AKB48 เป็นครั้งแรก แถมครั้งนี้ยังมีสิ่งที่เป็นประสบการณ์ครั้งแรกสำหรับฉันอยู่มากมากเลยค่ะ เพราะงั้นถึงจะยากลำบาก แต่ทุกๆ วันล้วนแปลกใหม่ค่ะ โดยเฉพาะช่วงครึ่งแรกเป็นการเล่นต่อเนื่องโดยไม่พัก ซึ่งได้แสดงอารมณ์และพูดบทพูดมากมาย ก็เลยกลุ้มใจอย่างหนักตั้งแต่ตอนช่วงซ้อมบทกันล่ะค่ะ ในบรรดานักแสดงแล้วฉันเป็นคนที่ประสบการณ์ในงานน้อยสุด แถมยังเป็นผู้หญิงที่อายุน้อยสุดอีก ก็เลยทำเต็มที่เท่าที่ตัวเองในตอนนี้ทำได้ค่ะ
ตั้งแต่ปีที่แล้ว กล่าวไว้ว่า “ปี 2019 อยากจะลองงานเล่นละครให้มากขึ้น”
โอเมกุ : สำหรับการเล่นละครครั้งแรกของปี ถือว่าได้ประสบการณ์ที่ดีเลยล่ะค่ะ อย่างการระเบิดอารมณ์ออกที่เล่นออกมาได้ไม่ลำบากนั้น แต่ตอนที่กรีดร้องออกมาเสียงดังแล้วเสียงสูงออกมาเพี้ยนอยู่เยอะ ก็เลยต้องซ้อมที่บ้านด้วยไม่รู้ตั้งกี่หนค่ะ ส่วนที่ยากที่สุดคือซีนที่ถูกฆ่าตอนท้ายค่ะ
ซีนอิมแพคอย่างซีนที่อดีตประธานชมรมคอรัสฝ่ายข่มเหง กลับถูกฮิบาริ (โอตะ นาโอะ) เพื่อนร่วมชั้นที่ตัวเองดูถูกมาตลอดฆ่า
โอเมกุ : เริ่มจากสถานการณ์ที่ฉันถูกกักขัง ได้เริ่มคลุ้มคลั่งอย่างการมองแง่บวกว่า “จะได้อยู่กับอาจารย์ที่รักแล้ว” แล้วฉากที่กรีดร้องว่าสถานที่กักขังนั้น “ก็ที่นี่คือบ้านของฉันกับอาจารย์นี่นา!” เนี่ยหนักเอาการเลย (หัวเราะแห้งๆ) ขอโทษกับฮิบาริแล้วก็โดนฆ่า ในตอนท้ายสิ่งที่ตัวเองได้ก่อไว้ก็ย้อนกลับมาหมด ในชีวิตของตัวเองไม่มีอะไรแบบนี้ กลุ้มใจและรู้สึกยากตรงที่ว่า เนี่ยมันอารมณ์แบบไหนกัน พอย้อนนึกอดีตดูตัวเองก็ดันเป็นฝ่ายถูกแกล้งซะด้วยสิ (หัวเราะแห้งๆ)
ฉากต่อบทกันจริงจังกับโอตะถือว่าเป็นไฮไลท์เลย