สรุปจากรายการ Profile48 ประจำวันที่ 6 พฤษภาคม 2020 จาก OUC48 Project ตอนที่ 2 เป็นของทานิกุจิ เมกุ ฉบับภาษาไทย ซึ่งถึงจะบอกว่าสรุป แต่ก็แปลบทสนทนามาไม่ต่ำกว่า 90% โดย โยโกยามะ ยุย (ยุยฮัง) รุ่นพี่เมกุเคารพนับถือ, อิวาตาเตะ ซาโฮะ (ซะโฮ) กัปตันทีม B, คาวาโมโตะ ซายะ (ซายายะ) เมมเบอร์ที่สนิท, ยูโมโตะ อามิ (ยูอามิ) เพื่อนร่วมรุ่น 15 ที่สนิท เข้าร่วมด้วย
ไฮไลท์ที่น่าสนใจ เช่น ‘ที่มาของชื่อเล่นโอเมกุ’ ที่เปิดเผยออกมาเป็นครั้งแรก หรือการหยอกล้อ (?) ระหว่างยุยฮังกับเมกุ ไม่ว่าจะรู้จักเมกุมากหรือน้อย อ่านแล้วรับรองว่าได้รู้จักมากขึ้นอย่างแน่นอน!
Introduction : คิดยังไงกับเมกุ?
ซายายะ : เมกุเป็นคนบ๊องๆ พอควรเลยค่ะ
ยุยฮัง : มักจะร่าเริงอยู่เสมอ
ซะโฮ : แฟชั่น วันนี้ฉันก็สวมเสื้อที่ได้รับมาค่ะ เสื้อผ้าจากเมกุ
ยุยฮัง : เอ๊ะ เสื้อผ้าจากเมกุ? เมกุนี่รุ่นน้องนี่นะ
เมกุ : ดีใจจังเลยที่ใส่กันด้วย เหมาะเลยล่ะค่ะ
หมวด 1 : Time Question (15 ข้อ)
ให้ตอบคำถามแบบรวดเร็ว โดยไม่ต้องคิดนาน ถามโดยยูอามิ
ข้อ 1 ชื่อว่า?
เมกุ : ทานิกุจิ เมกุ ค่ะ
ข้อ 2 วันเกิด?
เมกุ : 12 พฤศจิกายน 1998 ค่ะ
ข้อ 3 กรุ๊ปเลือด?
เมกุ : กรุ๊ปเลือด A ค่ะ
ข้อ 4 บ้านเกิด?
เมกุ : โตเกียวค่ะ
ข้อ 5 ข้อดี?
เมกุ : เอาแต่ใจ!
ข้อ 6 ข้อเสีย?
เมกุ : เอาแต่ใจ!
(ทุกคนหัวเราะ)
ข้อ 7 ความสามารถพิเศษคือ?
เมกุ : ช่วงนี้เริ่มเล่น Juggling (โยนลูกบอล) น่าจะเป็นโยนลูกบอลล่ะมั้งคะ
ข้อ 8 จุดที่มีเสน่ห์?
เมกุ : มือ
ข้อ 9 สิ่งที่ติดเป็นนิสัย?
เมกุ : สิ่งที่ติดเป็นนิสัย… ตื่นเช้าแล้วต้องแตะมือถือ?? (หัวเราะ)
ข้อ 10 ของกินที่ชอบ?
เมกุ : เนื้อกับอาหารจากแป้งค่ะ
ข้อ 11 สีที่ชอบ?
เมกุ : สีชมพูกับสีฟ้าค่ะ
ข้อ 12 เพลง AKB เพลงโปรด?
เมกุ : เอ๋… ไม่ใช่เพลงที่ชอบแต่เป็นเพลงโปรดเลยเหรอ เอ…. (เมมเบอร์เร่งให้ตอบ) Gingham Check
ข้อ 13 เมมเบอร์ที่เคารพนับถือ?
เมกุ : อันนี้ต้องคนเดียวสินะคะ? (ยูอามิ : ไม่เป็นไร) โยโกยามะ (ยุย) ซัง กับ โอคาดะ นานะซังค่ะ
ยุยฮัง : โอ๊ะ ขอบคุณนะ
ข้อ 14 ชุด AKB ที่ชอบ?
เมกุ : ชุดเหรอ? ตอนทัวร์ทีม A สมัยก่อน เสื้อลายตารางสีแดงที่กระโปรงยาวๆ นึกออกกันมั้ยคะ?
ยุยฮัง : ใช่ๆๆ
เมกุ : โยโกยามะซังน่าจะนึกออกนะคะ
ข้อ 15 สิ่งที่อยากบอกหนึ่งประโยค
เมกุ : รักทุกนะคะ~~~ (ทุกคนหัวเราะ)
ยูอามิ : ข้อดีและข้อเสียอย่างเดียวกันสินะ
เมกุ : ค่ะ
ยูอามิ : ทำไมล่ะ
เมกุ : คำว่า “เอาแต่ใจ (わがまま)” เนี่ย พอมองที่คำก็มีความหมายว่า “หัวแข็ง” มีความหมายด้านลบนี่นะ แต่พอมองด้านดีแล้วก็หมายถึงความจุกจิกเอาใจใส่ของคนคนนั้นด้วย ตัวฉันก็มีความจุกจิกใส่ใจในงานของตัวเอง คิดว่าตัวเองมีทั้ง 2 ความหมายค่ะ
ยุยฮัง : ก็ดีนะ เป็นคนที่มีความแน่วแน่ต่อความรู้สึกตัวเอง
หมวด 2 : ควิซ 2 ช้อยส์ (15 ข้อ)
จะเป็นคำถามจะมีช้อยส์ให้เลือก 2 ช้อยส์ ถามโดยซายายะ ช่วงที่ลังเลทำหน้าคิดหนักแล้วพูด “โอ้” เป็นอะไรที่ทำให้เมมเบอร์หลุดขำกันหลายรอบมาก
ข้อ 1 : ถนัดขวาหรือถนัดซ้าย?
เมกุ : ตอนทานข้าวจะใช้มือซ้าย ตอนเขียนหนังสือจะใช้มือขวา อาจจะเรียกได้ว่าถนัดทั้งสองข้าง ขอโทษนะคะที่ไม่ใช่เลือกจาก 2 ช้อยส์ซะได้
ข้อ 2 : วิธีเรียกคือแบบไหน หม่าม้าป่าป๊าหรือว่าคุณแม่คุณพ่อ?
เมกุ : หม่าม้าป่าป๊าสินะคะ
ข้อ 3 : ถนัดภาษาหรือว่าคำนวณ?
เมกุ : เอ๋…อันไหนก็ไม่ถนัดเลยแฮะ เอ๋~~~ (ทุกคนขำสีหน้าเมกุ) ถ้าให้เลือกก็คงเป็นภาษา? อ๊ะ… ไม่สิ คำนวณๆๆ
ข้อ 4 : ตั้งตารออะไรมากกว่ากัน ระหว่างคริสต์มาสกับปีใหม่?
เมกุ : เอ๋~~~ อะไรกันนะ อ๊ะ… ปีใหม่ค่ะ ปีใหม่!
ข้อ 5 : มักจะดูหนังญี่ปุ่นหรือหนังฝรั่งกว่ากัน?
เมกุ : เอ๋~~~ แต่ว่าถ้าเป็นช่วงนี้น่าจะดูหนังฝรั่งเยอะเลยล่ะค่ะ
ข้อ 6 : สายกินเนื้อหรือปลา?
เมกุ : เนื้อ! (ตอบทันที)
ข้อ 7 : ถ้ามีไทม์แมชชีนจะย้อนอดีตหรือไปอนาคต?
เมกุ : โอ……..อนาคต!
ข้อ 8 : การซุบซิบเป็นเรื่องดีหรือไม่ดี?
เมกุ : เอ๋… ดีรึเปล่านะ หมอดูบอกว่าดีก็น่าจะดี
ข้อ 9 : ชอบรองเท้าส้นเตี้ยหรือรองเท้าผ้าใบ?
เมกุ : รองเท้าผ้าใบ! (ตอบทันที)
ข้อ 10 : ระหว่างบ้านผีสิงกับรถไฟเหาะ กลัวอะไร?
เมกุ : อ๋า… ทั้งคู่เลย เอาไงดี เอ๋… แต่ว่าที่ไม่อยากไปจริงๆ ก็คงเป็นบ้านผีสิงแหละค่ะ รถไฟเหาะนี่ยังพอสู้ไหวค่ะ
ข้อ 11 : ถ้าสลับร่างได้วันนึง อยากเป็นใครระหว่างคนทำคอสตูมหรือช่างแต่งหน้า?
เมกุ : โอ้… โอ้… อันนี้เป็นตัวเลือกที่เลือกยากพอดีเลยนะเนี่ย เอ… ช่างแต่งหน้าล่ะมั้ง ช่างแต่งหน้าล่ะนะ
ข้อ 12 : ถ้าไปเดทหน้าร้อนอยากไปทะเลหรือเทศกาลชมดอกไม้ไฟ?
เมกุ : โอ้.. อ๊ะๆ เทศกาลชมดอกไม้ไฟล่ะมั้งนะ
ข้อ 13 : มีทางแยกเป็น 2 ทาง จะไปทางขวาหรือว่าไปทางซ้าย?
เมกุ : โอ้… ขวา
ข้อ 14 : เชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาวมั้ย?
เมกุ : เชื่อ! (ตอบทันที)
ข้อ 15 : เป็นคนฟุ่มเฟือยหรือประหยัด?
เมกุ : เอ… แล้วแต่ของล่ะนะ ประหยัดล่ะมั้ง…
ซายายะ : ตลกดี คำตอบก็ตลก แถมสีหน้าเมกุตอนที่ครุ่นคิดก็กลายเป็นหน้าแปลกๆ ด้วย (ยุยฮังตบมือชอบใจและขำแรงมาก)
ซะโฮ : ถนัดทั้ง 2 ข้างมาตั้งแต่เมื่อก่อนเหรอ?
เมกุ : อันนี้เป็นความดื้อของฉันด้วยแหละค่ะ เมื่อก่อนก็ทานข้าวด้วยมือซ้ายนะคะ แต่พอทานตรงข้ามกับคุณแม่ มันก็แบบเหมือนชนกันไรงี้ แล้วคุณแม่ก็พยายามทำให้เปลี่ยนมาใช้มือขวาเนี่ยแหละ สมัยก่อนนะคะ แต่ด้วยความดื้อของฉันก็จะกลับมาใช้มือซ้ายเหมือนกัน หลายต่อหลายหน นี่ก็มีความดื้อของวัยเด็กนะคะเนี่ย แต่เวลาเขียนมือขวานะคะ อาจจะถนัดสองข้างก็ได้
ซายายะ : แล้วก็รถไฟเหาะ
เมกุ : ไม่ถนัดทั้งคู่เลยล่ะค่ะ ลังเลจัง
ยูอามิ : ตอนไปสวนสนุกกับเมกุ กรี๊ดอยู่ข้างๆ หนักมาก บนรถไฟเหาะน่ะ
ยุยฮัง : หมายความว่าเครื่องเล่นไหนก็เป็นเหรอ?
ยูอามิ : ใช่ค่ะ
ซะโฮ : เมกุเนี่ย ไม่ใช่เครื่องเล่นก็กรี๊ดนะคะ ก่อนหน้านี้เล่นอีแก่กินน้ำกัน แล้วตอนที่จับได้อีแก่ก็กรี๊ดออกมา เลยดูออกล่ะค่ะ
(ทุกคนหัวเราะ)
ยุยฮัง : อันนั้นไม่ไหวนะ
ซะโฮ : ก็เลยแพ้ ตลกดีค่ะ
เมกุ : ไม่เหมาะสินะคะ สีหน้าออกหมดเลย เพราะงั้นเลยความแตกง่าย
หมวด 4 : ทานิกุจิ เมกุ ที่มีแค่ฉันที่รู้
ดำเนินรายการหมวดนี้โดยยุยฮัง จากการทำแบบสอบถามเมมเบอร์ AKB48 ทุกคนรวบรวมด้านที่ผิดคาดแล้วมาถามเจ้าตัวว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง
โดยข้อมูลเกี่ยวกับเมกุที่คัดมามี 6 อย่าง
ข้อ 1 : [จาก N ซัง หรือเซเว่นซัง] ต่อหน้าหม่าม้า เมกุเป็นคนนิ่งๆ หม่าม้าของเมกุรั่วกว่าเมกุซะอีก
เมกุ : จริงค่ะ คือว่าคุณแม่เป็นคนแบ๊วๆ ค่ะ ฉันก็คิดว่าถ้าเหมือนคุณแม่หน่อยบ้างก็คงดี (จะได้นิสัยเหมาะกับการเป็นไอดอลมากกว่านี้) จะเรียกว่ารั่วๆ ดีมั้ยนะ แต่คุณพ่อก็พูดเหมือนกันว่าแบ๊วๆ รั่วๆ ตอนที่คุณพ่อกับคุณแม่เดทกันเนี่ย ก็จะต้องโทรคุยกันใช่มั้ยคะ แล้วเหมือนว่าเสียงตอนคุยกันจะแบ๊วมากเลยล่ะค่ะ อารมณ์แบบ (เสียงสูง) “ฮัลโหลๆ” น้ำเสียงประมาณนี้เลยล่ะค่ะ
ยุยฮัง : เมกุเนี่ย สำหรับฉันแล้วมีอิมเมจว่ารั่วๆ ร่าเริงๆ อาจจะได้มาจากคุณแม่ก็ได้นะ
ข้อ 2 : [จาก M-องซัง] ทานิกุจิเป็นคนขี้กลัว พอมีหมาจะทิ้งสัมภาระตัวเองแล้วหนี จากนั้นก็กรีดร้องว่า “อย่านะ อย่าเข้ามานะ”
เมกุ : เรื่องจริงค่ะ ฉันขี้กลัวจริงๆ ไม่ชอบหมาอย่างแรงเลยค่ะ ทั้งตัวใหญ่ตัวเล็ก เมื่อก่อนตอนเข้าร่วมฝึกทหารที่ไทยจากรายการ Nemousu TV ตอนที่กล้องไม่ได้จับ แล้วเข้าแถวกัน แล้วมีหมาจรจัดก็มาทางนี้ ทุกคนก็พูดกันว่า “น่ารักจัง” แต่ดันค่อยๆ เข้าหาทางนี้ ไม่รู้จะทำยังไงก็เลยวิ่งหนี แต่กลับยิ่งโดนไล่ตาม หนีเอาเป็นเอาตายจนไปกอดคนไม่รู้จักเลยล่ะค่ะ รู้สึกผิดเลย กลัวจริงๆ เลยค่ะ
ยุยฮัง : บางทีคนที่โดนเมกุกอดอาจจะกลัวกว่าก็ได้นะ
ซายายะ : ที่ไทย ตอนนั้นฉันก็อยู่แล้ว แล้วการฝึกซ้อมค่อนข้างหนักหน่วง จนทุกคนวิ่งไม่ไหวแล้ว แค่เดินก็ทรมานแล้ว แต่ตอนที่หมามามีแค่เมกุที่วิ่งอย่างเอาเป็นเอาตายล่ะค่ะ (ทุกคนหัวเราะ)
เมกุ : รู้สึกว่าตอนที่วิ่งหนีหมา เหมือนร่างกายมันเบาหวิว รู้สึกว่าพอคนเรารู้สึกอยากปกป้องชีวิตตัวเอง สามารถเอาจริงได้ขนาดนี้เลย
ยุยฮังถามเมกุว่า แล้วหมาตัวเล็กๆ ก็กลัวด้วยเหรอ แต่เมกุเล่าว่าตอนไปบ้านโคมิฮารุก็ไม่เป็นไรกับน้องหมา (ริองคุงเป็นหมาพันธุ์ตัวเล็ก) อาจจะเพราะชินแล้วก็เป็นได้
ซะโฮ : อันนี้ไม่เชิงว่าเป็นหมา คือปีที่แล้วแสดงละครเวทีเรื่อง Yama Inu กับเมกุน่ะค่ะ แต่ซีนเปิดเรื่องมีซีนที่ต้องเลียนเสียงเห่าของหมาค่ะ แล้วตอนซ้อมเนี่ย นักแสดงท่านอื่นเก่งมากซะจนเหมือนเสียงเห่าของหมาของจริงเลย แล้วเมกุร้องไห้เพราะงี้ล่ะ
ยุยฮังก็เลยแซวว่านี่มันไม่ใช่หมานี่นา
สรุปว่าเป็นคนขี้กลัวตามที่ข้อมูลแจ้งมา
ข้อ 3 : [จาก A-การินซัง] ทานิกุจิ เมกุ เปลี่ยนอารมณ์เก่ง
เนื่องจากไม่มีข้อมูลลงรายละเอียด ยุยฮังเลยถามเพิ่มเติมในขณะที่เมกุยังทำหน้างงๆ อยู่
เมกุ : ไม่รู้ว่าจะพูดเองดีมั้ย แต่น่าจะ Yes แหละค่ะ
ยุยฮัง : ตอนไหนเหรอ
เมกุ : อย่างตอนขึ้นแสดงเธียเตอร์ มันก็ต้องมีบ้างแหละค่ะที่บางวันมันไม่มีฟีล แต่ในตอนนั้น พอเพลง overture ดังขึ้น “A! K! B! โฟร์ตี้เอท!” ก็มีฟีลขึ้นมาว่า “เริ่มแล้ว!” แล้วก็สับสวิทช์ได้ โดย overture ทำให้รู้สึกว่ามุ่งมั่นขึ้นมาได้ค่ะ
ทุกคนก็พูดถึงว่าตอนแสดงสเตจ, เล่นมวยปล้ำ, มาจิสึกะ เองก็ให้ความรู้สึกที่ต่างจากยามปกติสุดๆ
ข้อ 4 : [Y-มาเบะซัง] ทานิกุจิ เมกุ ทานเยอะมาก ตอนไปร้านพาสต้าด้วยกัน สั่งไซส์ L และชอบของกินที่ได้รับมาเอามากๆ
เมกุ : ก็จริงล่ะค่ะ
ยุยฮัง : แล้วออกกำลังกายบ้างมั้ย
เมกุ : ก็ไม่ได้ออกกำลังกายนะคะ…. ฉันชอบพาสต้ามากเลยค่ะ สั่งไซส์ L ค่ะ เวลามันราคาเท่ากันจะไม่อยากสั่งไซส์ L กันขึ้นมาเหรอคะ
ยุยฮัง : ตอนแรกก็คิดว่าทานเยอะน่าดู แต่นี่งกนะเนี่ย อย่างเรื่องของกินที่ได้รับมา (หมายถึงของที่มีคนเอามาแจกให้เมมเบอร์ มักได้ตอนมีสเตจหรือไม่ก็คอนเสิร์ต บางทีก็เป็นของกินหรูๆ) เนี่ย
เมกุ : ของกินที่ได้รับมาก็ชอบเหมือนกันค่ะ ชอบอาหารมากๆ ชอบการกินมากค่ะ
ยุยฮัง : ชอบอะไรที่สุดเหรอ
เมกุ : เอ… เลือกที่ชอบสุดไม่ได้ค่ะ งั้นเอาเนื้อดีกว่า ชอบเนื้อค่ะ แล้วก็อาหารประเภทเส้นค่ะ
ข้อ 5 : [M-จารินซัง] ทานิกุจิ เมกุ พูดคนเดียวเยอะ แถมเสียงดังด้วย มีหลายครั้งที่ไม่รู้ว่าตกลงชวนคนอื่นคุยหรือว่าพูดคุยเดียวกันแน่
เมกุ : ไม่รู้สึกตัว แต่คิดว่าน่าจะมีแหละค่ะ
ยูอามิ : มีบ่นงึมงำออกมาระหว่างแต่งหน้าด้วย ก็คิดว่า “ไม่ยุ่งด้วยดีกว่า”
เมกุ : ตัวเองก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองพูดคนเดียวเท่าไหร่หรอกนะคะ… รู้สึกน่ากลัวแฮะ
ยุยฮัง : นอกจาก M-จารินซังก็มีเขียนมานะ
เมกุ : ตายจริง คิดว่าคงมีพูดคนเดียวแหละค่ะ อยากให้สนใจกันรึเปล่านะ รู้สึกว่ามีมุมที่อยากให้คนสนใจบ้างล่ะค่ะ
ยุยฮัง : งั้นแปลว่านี่คือเข้าหาคนอื่นเหรอ
เมกุ : เอ… ที่จริงก็ไม่รู้ตัวเองนะคะ ในการพูดคนเดียวนะคะ แต่ว่ามีมุมที่อยากให้คนอื่นคุยด้วย…รึเปล่านะ อันนี้ไม่รู้จริงๆ ค่ะ ขอโทษนะคะ
ข้อ 6 : [C-จังซัง] ทานิกุจิ เมกุ ปลื้มคนไม่ดี แล้วบอกว่าอยากลองทำเรื่องไม่ดีบ้าง
เมกุ : เอ๋… มีเรื่องแบบนั้นด้วยเหรอคะ? คนไม่ดีเนี่ย?
ซะโฮ : อาจจะหลุดพูดคนเดียวในห้องแต่งตัวก็ได้
เมกุ : อาจจะมีพูดคนเดียวไม่รู้ตัวที่ห้องแต่งตัวก็ได้ค่ะ คนเราเวลาอายุมากขึ้น ความชอบก็เปลี่ยนไปใช่มั้ยคะ เลยคิดว่าในตอนนั้น คิดแบบนั้นเฉยๆ ค่ะ ตอนนี้ไม่คิดแบบนั้นเลยค่ะ
ยุยฮัง : งั้นจุดเปลี่ยนคืออะไรเหรอ เช่น ละครหรือภาพยนตร์?
เมกุ : Majisuka Gakuen รึเปล่านะ เพราะเป็นแยงกี้นี่คะ สมัยฉันยังเป็นแฟนคลับก็ชอบ Majisuka Gakuen มากเลย แล้วก็อาจจะคิดว่าอยากเป็นเหมือนผู้หญิงเหล่านี้ก็ได้มั้งคะ
ยุยฮัง : อย่างนี้นี่เอง หมายถึงหลงใหลผู้หญิงเท่ๆ สินะ
เมกุ : ใช่ค่ะ ประมาณว่าหลงใหลผู้หญิงแกร่งสินะคะ
ซะโฮ : แล้วตอนนี้หลงใหลผู้หญิงแกร่งแบบไหนเหรอ
เมกุ : เอ๋~ แบบแสดงออกถึงความเป็นตัวเองออกมา เพราะคนแบบนี้ถ้าไม่มีความมั่นใจก็ไม่สามารถทำได้นี่คะ
ยุยฮัง : งั้นแบบนี้ก็ไม่ผิดล่ะเนอะ แต่ตะหงิดๆ กับคีย์เวิร์ดอยู่หน่อยๆ ก็เถอะ
หมวด 5 : ทุกคนถามคำถามถึงเมกุ (8 ข้อ)
ทุกคนในไลฟ์ถามคำถามเมกุคนละ 2 ข้อให้เมกุตอบ
ซะโฮ : ช่วยบอกสิ่งที่มีความสุขที่สุดและหนักหนาสาหัสที่สุดในการทำกิจกรรมในวง AKB48 หน่อย
เมกุ : ในการทำกิจกรรมของ AKB มา มีช่วงเวลาที่เรียกว่ามีความสุขมากมาย ยากที่จะเลือกเพียงอย่างเดียว อย่างเธียเตอร์ อย่างทัวร์ อย่างคอนเสิร์ต บนเวทีเนี่ย เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขเลยล่ะค่ะ ทัวร์เนี่ยสนุกเนอะ พอจัดทัวร์ก็จะได้ร่วมแรงร่วมใจกัน และเป็นหนึ่งอันเดียวกับแฟนๆ ด้วย รู้สึกว่าวิเศษเลยล่ะค่ะ เป็นสิ่งที่มีแต่ไอดอลถึงจะทำได้สินะคะ
สิ่งที่หนักหนาสาหัส… ก็คงเป็นตอนสมัยเคงคิวเซล่ะมั้งคะ ตอนสมัยเคงคิวเซมีเคงคิวเซแค่ 2 คนเองค่ะ ตำแหน่งที่ต้องจำเนี่ยก็ต้องแบ่งกันจำ 2 คน แล้วจำเยอะมาก แล้วในเวลาเดียวกันก็มีละครเวที AKB49 ได้ขึ้นแสดงในฐานะตัวละครที่ไม่มีบทพูด แล้วก็มีซ้อมละครด้วย เลยค่อนข้างวุ่นๆ เลยค่ะ แล้วก็มีเรื่องการเรียนที่ทำควบคู่ไปด้วย คิดๆ ดูแล้วน่าจะเป็นช่วงเวลาที่หนักหนาสาหัสสุดค่ะ แต่พอมานึกตอนนี้ก็ถือว่าเป็นความทรงจำดีๆ แหละค่ะ
ซะโฮ : ถ้าเกิดใหม่อยากจะลองทำอาชีพไหนนอกจากไอดอลเหรอ
เมกุ : นอกจากไอดอลเหรอคะ ถ้าฉันเกิดใหม่ยังไงก็ยังอยากเป็นไอดอลล่ะค่ะ ไม่ว่าจะเกิดเป็นผู้หญิงหรือจะเป็นผู้ชาย ถ้าไม่ได้เป็นไอดอลแล้วก็คงเป็นทำเบื้องหลังอย่างโปรดิวเซอร์หรือสตาฟมั้งคะ ถึงจะเกิดใหม่ก็อยากทำงานในวงการนี้ล่ะค่ะ เพราะชอบไอดอลค่ะ
ยูอามิ : ช่วยแนะนำอนิเมที่คนที่หน้าใหม่กับการชมอนิเมก็สนุกได้หน่อยค่ะ
เมกุ : ถ้าเป็นเรื่องที่ดังก็อนิเม ‘Ano Hi Mita Hana no Namae o Bokutachi wa Mada Shiranai’ เป็นเรื่องที่ชวนร้องไห้ค่ะ เพลงประกอบก็ดังพอดูเลย (ร้องท่อนฮุค) “Kimi to Natsu no Owari~♪” ช่วงนี้ดูแล้วร้องไห้ล่ะค่ะ แล้วก็แนะนำเรื่อง ‘Shigatsu wa Kimi no Uso’ ด้วยค่ะ
ยูอามิ : ดูแบบมูฟวี่มาล่ะ!
เมกุ : แล้วก็ ‘Boku no Hero Academia’ ก็สนุกใช้ได้ค่ะ
ยุยฮัง : ดูเยอะน่าดูเลยเนอะ
ซะโฮ : เมกุนี่มีอิมเมจดูเรื่อง ‘Kimetsu no Yaiba’ หนัก
เมกุ : สนุกเลยล่ะค่ะ
ยูอามิ : ฉันไม่ได้ดูอนิเมเลย จะเอาไว้อิงนะ
เมกุ : แนะนำพวกการ์ตูนผู้ชาย (โชเนนมังกะ) ล่ะ
ยูอามิ : ไหนๆ ก็เป็นคนแต่งตัวเก่ง ช่วยบอกพอยต์ในการจับคู่เสื้อผ้าหน่อย
เมกุ : ดีใจจัง พอยต์ในการจับคู่เสื้อผ้าเหรอ… บาลานซ์สินะ
ยุยฮัง : แล้วดูพวกนิตยสารหรือ Instagram แล้วเลือกรึเปล่า หรือจากตัวเองเลย
เมกุ : อ่านพวกนิตยสารค่ะ มีอิงจากนิตยสาร เวลาที่ไม่รู้ว่าจะจับคู่ยังไง ยุคนี้สามารถดูจากในมือถือได้เหมือนกัน ก็ดูๆ ว่า อ๊ะ มีการจับคู่แบบนี้ด้วยแหละ ทาง Instagram ก็ดูเหมือนกัน
ยูอามิ : ฉันซื้อเลียนแบบเมมเบอร์ที่แต่งตัวน่ารักล่ะ
ยุยฮัง : อะไรเนี่ย น่ารักจัง
เมกุ : อามิจังทักมาว่าซื้อเสื้อเบลาส์ที่มีโบตัวเดียวกับที่ฉันลงใน Instagram เป็นคู่กัน แล้วตอนไปสวนสนุกนึงด้วยกัน ก็นัดกันว่าแต่งคู่กัน แล้วอามิจังน่ารักมากๆ บอกว่าเก็บรักษาไว้อย่างดีตลอด 2 ปีเพื่อแต่งคู่กับฉันเลยล่ะค่ะ
ยุยฮัง : เอ๊ะ น่ารักจัง
ยูอามิ : ใช่ค่ะ ซื้อเมื่อ 2 ปีก่อน แต่ใส่ครั้งแรกตอนที่ไปเที่ยวกับเมกุค่ะ
ซายายะ : น่ารัก~
เมกุ : น่ารักสุดๆ ซะจนใจเต้นเลย ดีใจเลยค่ะที่ขนาดใส่ชุดตาม
ยุยฮัง : มีคนคอมเมนท์ว่าเมกุแต่งตัวดีเยอะเลย
ซายายะ : เห็นว่าถนัดยิมนาสติกลีลาใหม่กับการใช้ริบบิ้น แล้วนอกจากนี้มีกิจกรรมหรือสิ่งที่อยากเรียนบ้างมั้ย
เมกุ : ฉันเป็นประถมที่เรียนนั่นนี่เยอะเลยค่ะ เริ่มจาก 3 ขวบเรียนว่ายน้ำ ตอนแรกจะแค่พี่ชายที่โดนจับเรียนแต่ฉันก็บอกไปว่า “เมกุด้วยสิ!” แล้วก็ประมาณ ป.2 ก็เข้าคลับยิมนาสติกธรรมดา
ยุยฮัง : ยิมนาสติกสากล?
เมกุ : ยิมนาสติกสากลรึเปล่านะ? แต่ก็ยิมนาสติกประมาณนั้นแหละค่ะ แล้วก็เรียนจักรยานล้อเดียวแค่ 3 สัปดาห์ แล้วก็เล่นฟุตบอลแค่ 1 สัปดาห์ แล้วก็ตอน ป.3 เรียนลูกคิดค่ะ ฉันคำนวณด้วยมือมาตลอดจนติดเป็นนิสัย เพื่อแก้นิสัยตรงนั้นพ่อแม่ก็เลยจับเรียนลูกคิดค่ะ แล้วก็ ป.2 เริ่มเรียนยิมนาสติกลีลาใหม่ แล้วก็ ป.3 เรียนบัลเล่ต์ สองอย่างนี้เป็นสิ่งที่เรียนมาต่อเนื่องค่ะ
ซายายะ : เพราะงั้นตัวก็เลยอ่อนสินะ
เมกุ : ใช่ค่ะ แต่เรื่องตัวอ่อนเนี่ย มีมาตั้งแต่เกิดแล้วล่ะ เห็นว่าตั้งแต่ตอนที่เกิดมาก็แบบตัวอ่อนยวบเลย
ยุยฮัง : หมายความว่ายังไง (ฮา)
เมกุ : แล้วพ่อแม่ก็แบบว่าอุตส่าห์เกิดมาตัวอ่อนทั้งทีน่าจะใช้ประโยชน์หน่อยก็เลยให้เรียนหลายๆ อย่างค่ะ เช่น ยิมนาสติกลีลาใหม่ไม่ก็จักรยานล้อเดียว
ซะโฮ : เรียนจักรยานล้อเดียวเนี่ยคืออะไรน่ะ
เมกุ : มีนะคะ เรียนจักรยานล้อเดียว!
ยุยฮัง : เหมือนจะมีอยู่นะ มีการแข่งด้วย
เมกุ : ใช่ค่ะ มีการแข่งด้วย มีพวกงานแสดงผลงานด้วย แต่ก็เรียนไปแค่ 3 สัปดาห์น่ะนะคะ นั่นสิคะ ทำไมถึงเลิกนะ แต่เล่นจนปั่นได้แล้วนะคะ ทำไมกันนะ… น่าจะเพราะไม่เหมาะมั้งคะ ไม่มีความทรงจำเลยค่ะ
ยุยฮัง : ฟุตบอลก็ 1 สัปดาห์เหรอ
เมกุ : เพราะพี่ชายเล่นฟุตบอลก็เลยเหมือนตอนว่ายน้ำ 3 ขวบ แบบอยากเล่นด้วย ก็แบบเบื่อแล้วก็เลิกค่ะ
ยุยฮัง : คุณแม่คิดยังไงนะ เหมือนแค่ไปทดลองหาประสบการณ์เลย
เมกุ : เป็นเด็กที่ใช้เงินอย่างมากเลยค่ะ (ฮา)
ซายายะ : ชื่อเล่นอย่างเป็นทางการของเมกุในช่วงแรกเนี่ย “เมกุตัน” สินะ แต่ที่แพร่หลายคือ “โอเมกุ” เลยสงสัยว่าทำไมถึงเป็นโอเมกุเหรอ อยากรู้ที่มาของชื่อโอเมกุ อย่างเช่น ใครเป็นคนตั้งให้
เมกุ : อ๊ะ โอเมกุเหรอคะ รุ่นพี่ตอนสมัย ม.ต้น เป็นคนตั้งให้ค่ะ เข้าชมรมยิมนาสติกลีลาใหม่ตอน ม.ต้น แล้วทำกิจกรรมชมรมนี้ ฉันสมัยนั้น… เหมือนจะถูกมองว่านิสัยแบบลุงๆ (โอจิซัง) อะไรแบบนี้ ถึงตอนนี้จะไม่ใช่แบบนั้นแล้วก็เถอะ ก็เลยแบบ โอจิซัง (ลุง) + เมกุ = โอเมกุ อะไรแบบนี้
ยุยฮัง : เอ๊ะ? ‘โอ’ จาก ‘โอจิซัง’ เหรอ??
เมกุ : เหมือนจะเป็นแบบนั้นค่ะ แต่ฉันไม่ได้คิดว่าตัวเองมีนิสัยเหมือนลุงๆ เลยนะคะ
ซายายะ : เพิ่งเคยได้ยินครั้งแรก
ยุยฮัง : นิสัยเหมือนลุงเนี่ยฟังดูไม่เก็ตแฮะ
ยูอามิ : เอ่อ พูดตรงนี้ไม่ได้ แต่สมัยออดิชั่นก็มีเหตุการณ์ที่อะไรรู้สึกว่าคล้ายๆ ตาลุงเกิดขึ้นนะ
ยุยฮัง : เอ๊ะ พูดไม่ได้เหรอ งั้นสรุปว่าโอเมกุมาจากแบบนี้สินะ
เมกุ : ขอโทษนะคะที่ไม่ใช่เหตุผลอะไรมากมาย
ยุยฮัง : ไม่ล่ะ นี่มันมากเกินเลยล่ะ
ซะโฮ : ต่างกับสิ่งที่คิดไว้สิ้นเชิงเลย
ยุยฮัง : ต่างเลยเนอะ นึกว่า ‘โอ’ ที่เวลาเติมข้างหน้าคำยกย่องอะไรพวกนั้นซะอีก แต่ดันเป็น ‘โอจิซัง’ ซะงั้น
ยุยฮัง : สุดท้ายจากฉันล่ะ เมกุมักจะสดใสอยู่เสมอ แหล่งกำเนิด (ความสดใส) นั้นคืออะไรเหรอ
เมกุ : แหล่งกำเนิดเหรอคะ… เอ… ไม่เคยคิดเลยแฮะ แต่เวลาเจอเมมเบอร์แล้วร่าเริงขึ้นมาได้ล่ะค่ะ แบบว่าชอบเมมเบอร์ทุกคนก็เลยคึกขึ้นมาได้
ยุยฮัง : คิดว่าเมกุเองก็มีเวลาที่จิตตกหรือกลุ้มใจอยู่บ้าง เวลาแบบนั้นทำอะไรที่บ้านเพื่อให้หายเหรอ
เมกุ : เวลาจิตตกก็แบบนี้ตลอดเลย (ทำท่าจิ้มมือถือแบบคอตก) แต่เวลาแบบนั้นก็ดูคลิปไอดอล อ่านมังกะ ดูอนิเม แล้วก็ร่าเริงขึ้นมาได้ เป็นคนนิสัยง่ายๆ แบบนี้แหละค่ะ ดีจริงๆ ที่ไม่ได้เป็นคนทุกข์ทนกับอะไรแบบนี้
ยุยฮัง : ทำสิ่งที่ชอบก็ลืมได้ ไม่ก็ได้เจอเมมเบอร์แล้วสนุกขึ้นมาได้สินะ
ยุยฮัง : งั้นฉันถามอีกข้อ เรื่องราวที่ตราตรึงที่สุดตั้งแต่ทำกิจกรรม AKB48 มาคืออะไร
เมกุ : เรื่องราวเหรอคะ…
ยุยฮัง : อะไรที่นึกแล้วแวบออกมาตอนนี้ หรือว่าจำไม่ได้ (หัวเราะ)
เมกุ : อ๊ะ นึกออกแล้วค่ะ ตอนที่ไปทัวร์สมัยทาคาฮาชิทีม A กับพวกทากามินะซัง โคจิมะซัง หลังจากจบทัวร์รอบสุดท้ายที่เซนได ตอนที่ออกจากห้องแต่งตัวจะไปดื่มน้ำตามปกติ แล้วก็พูดว่า “ขอบคุณที่เหน็ดเหนื่อย” กับโคจิมะซังและสตาฟที่อยู่ตรงนั้น แล้วสตาฟคนนั้นเหมือนจะนามสกุลเหมือนฉัน ก็เลยคุยสนุกเลย แล้วสตาฟคนนั้นก็ถามโคจิมะซังว่า “คิดว่าเมกุจังเป็นยังไงเหรอ” โคจิมะซังก็ตอบว่า “น่ารักนะ เหมือนยุยจังเลย~”
ยุยฮัง : ฉันเหรอ?
เมกุ : ใช่ค่ะ แล้วสมัยนั้นฉันโอชิโยโกยามะซังค่ะ (เมกุใช้ไวยากรณ์เป็นรูปอดีต)
ยุยฮัง : สมัยนั้นนี่คืออะไร (หัวเราะ)
เมกุ : สมัยฉันยังเป็นแฟนคลับ จุดเริ่มมาจากโอชิมะ ยูโกะซังค่ะ แล้วตอนตั้งวง Not Yet ก็ได้รู้จักกับโยโกยามะซังเป็นครั้งแรก เลยสนใจโยโกยามะซังขึ้นมา จนหาข้อมูลเยอะแยะ ได้เห็นเรื่องราววิเศษของโยโกยามะซัง ก็เลยติดโยโกยามะซังอย่างจังเลยค่ะ ชอบโยโกยามะซังอย่างมากเลย (ตรงนี้เมกุใช้ไวยากรณ์เป็นรูปอดีต)
ยุยฮัง : ชอบมาก (แบบรูปอดีต) เหรอ?
เมกุ : ตอนนี้ก็ชอบค่ะ! ชอบค่ะ! เพราะงั้นก็เลยดีใจค่ะ ที่ถูกชมว่าเป็นโยโกยามะซังที่ชื่นชอบและหลงใหล เป็นเรื่องที่นึกออกมาขึ้นมาในตอนนี้
ยุยฮัง : เป็นเรื่องราวดีที่นะ แต่ส่วนตัวยังไงก็ยังติดใจตรงที่ใช้รูปอดีตอยู่ดี
เมกุ : ไม่ใช่รูปอดีตค่ะ จะต่อจากนี้ก็ยังชอบนะคะ
ยุยฮัง : ฉันก็ชอบมากนะ (หัวเราะ)
ซายายะ : นี่มันอะไรเนี่ย (หัวเราะ)
เมกุ : ดีใจที่โยโกยามะซังมาออกกิจกรรมครั้งนี้นะคะ
ยุยฮัง : ฉันเองก็ดีใจมากๆ เหมือนกันที่ได้ออกรอบของเมกุ
เมกุ : วันนี้โอคาเบะ รินจังก็บอกในทวิตเตอร์ว่าอยากออกรอบนี้ของฉันเหมือนกัน ดีใจกับความรู้สึกของรินจัง แต่โยโกยามะซังมาออก .. อ๊ะ ทุกคนมาออกก็ดีใจแหละค่ะ (ลนลานทำให้ทุกคนขำ)
หมวด 6 : คำถามจากแฟนๆ ที่ชม YouTube (4 ข้อ)
ซะโฮ : ถูกเรียกว่า ‘โอจิเมกุ’ ด้วยล่ะ (หัวเราะ)
เมกุ : ชื่อเล่นใหม่เกิดขึ้นแล้วสินะคะเนี่ย (หัวเราะ)
ซายายะ : ตกใจที่สุดแล้วเนี่ย ‘โอ’ จาก ‘โอจิซัง’
ยุยฮัง : ข้อมูลที่สุดของวันเลย
เมกุ : ลังเลเลยล่ะค่ะ ว่าจะพูดดีมั้ยว่ามาจาก ‘โอ’ ของ ‘โอจิซัง’ แต่วันนี้เป็นกิจกรรมที่ Pick-up ฉัน ก็เลยตัดสินใจพูดค่ะ
ยุยฮัง : มีคนเขียนว่า “ท่าทางสุดยอดมาก”
เมกุ : ท่าทาง? ฉันออกท่าทางด้วยเหรอคะ?
ยุยฮัง : อย่างเยอะเลยล่ะ ท่าทางที่ตั้งอกตั้งใจพูดเนี่ยน่ารักดี
เมกุ : จริงเหรอคะ ดีแล้วล่ะค่ะ เพราะทางนี้ก็พยายามเพื่อให้สื่อออกไปได้ค่ะ
เข้าสู่ช่วงคำถามจากแฟนๆ
ซะโฮ : ข้อที่ 1 หลังจากนี้อยากลองแสดงบทไหนดู
เมกุ : อยากลองแสดงบทผู้หญิงธรรมดาดูค่ะ จนถึงตอนนี้เป็นบทแยงกี้ ตอนมาจิมุริก็เป็นบทนิสัยไม่ดี ยามะอินุเองก็บทที่แรงๆ พอดู ก็เลยอยากลองเล่นบทผู้หญิงธรรมดาดูค่ะ ถ้าเป็นบทผู้หญิงธรรมดาเนี่ยอะไรก็ได้ค่ะ จะเป็นนักเรียนหรือคนทำงานก็ได้ ดีใจหมดค่ะ
ยุยฮัง : มีละครที่ชอบมั้ย?
เมกุ : เอาแบบทั่วไปเลยก็ ‘Hana Yori Dango’ ค่ะ
ซะโฮ : ดีนะเรื่องนี้
เมกุ : แล้วก็เรื่อง ‘Iine! Hikaru Genji-Kun’ ที่อันนินซังแสดงค่ะ สนุกจริงๆ เลยค่ะ แล้วก็อันนินซังน่ารักสุดๆ เลยค่ะ
ยุยฮัง : อันนินเนี่ย ชอบเมกุสุดๆ เลยนะ
เมกุ : ใช่เลยค่ะ!! (ยอมรับอย่างง่ายดายจนทุกคนขำ)
ยุยฮัง : รู้สินะ (หัวเราะ)
เมกุ : ดีใจจริงๆ เลยค่ะ ฉันเองก็ชอบอันนินซังมากๆ เลยค่ะ ชอบอันนินซังในระดับสาวกเลยล่ะค่ะ
ซายายะ : ดูสนิทกัน
ยุยฮัง : ดูติดใจเมกุตลอดเลยล่ะ
เมกุ : เป็นรุ่นพี่ที่ฉันชอบเลยค่ะ (ส่วนละคร) เมื่อก่อนก็มีเรื่อง ‘Suki na Hito ga Iro Koto’
ซะโฮ : ไปที่คำถามต่อไป ความผิดพลาดที่สุดตั้งแต่เข้าวง AKB มาคืออะไร
เมกุ : ผิดพลาดเหรอคะ? ตอนนั้นสินะคะ เคยได้เล่นเพลง Itoshisa no Accel ที่เธียเตอร์ค่ะ แล้วไลท์เซเบอร์ที่ถือกระเด็นไปไหนไม่รู้ แต่เป็นด้านหลังของเวทีเธียเตอร์ไม่ใช่ฝั่งที่นั่งผู้ชม อันนี้เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่หลวงเลยค่ะ
ซะโฮ : อันนี้สมัยแรกๆ สินะ
เมกุ : สมัยแรกๆ ล่ะค่ะ สมัยเลื่อนขั้นมาได้ไม่ได้นาน รู้สึกผิดต่อทากามินะซังเลยค่ะ
ยุยฮัง : โดนโกรธเหรอ
เมกุ : ไม่มีอะไร… ไม่สิ คิดว่าไม่รู้นะคะ แต่รู้สึกผิดค่ะ
ซะโฮ : ท่าทางตอนไปเก็บดาบน่ารักดี
ซะโฮ : มีรุ่นน้องที่เอ็นดูหรือจับตามองหรือเปล่า
เมกุ : คาวาฮาระ มิซากิจัง ทีม B สินะคะ มิซซา เป็นเด็กทีม 8 ที่มาควบทีม น่ารักมากๆ เลย แล้วก็คุณพ่อของมิซซาไม่เชิงว่าโอชิฉัน แต่เหมือนจะชอบฉันล่ะค่ะ แล้วจากนั้นก็เลยได้เริ่มคุยกับมิซซา Performance การเต้นก็เก่งและสวยงามเลยค่ะ วันนี้ดูทัวร์ทีม B จาก Gyao! ที่ฉายตั้งแต่วันนี้ แบบการเต้นที่ยากก็สามารถเต้นได้อย่างสบายๆ เลยค่ะ รู้สึกถูกดึงดูดจาก Performance นั้น จับตามองตั้งแต่ได้อยู่ทีม B ค่ะ น่ารักเลยค่ะ
ซะโฮ : ฟีลเมกุนี่เหมือนเป็นพี่สาวไปแล้ว
ยุยฮัง : จะว่าไปก็จริง
เมกุ : เอ๋~~ พี่สาวเหรอคะ!? (เสียงสูง)
ยุยฮัง : รู้สึกว่าเมกุเป็นรุ่นพี่แล้วนะเนี่ย อย่างอามิกับซายายะก็ด้วย ฉันรู้สึกว่าเป็นรุ่นน้องที่น่ารักนะ แต่ฟังแบบนี้ก็แบบ “อ๊ะ เป็นรุ่นพี่แล้วนะเนี่ย”
เมกุ : รุ่นพี่แล้วล่ะค่ะ~~ (ซะโฮขำ) เป็นผู้หญิงบรรลุนิติภาวะแล้วนะคะ
ยุยฮัง : ตลกชะมัดเลยนะเนี่ย (หัวเราะ) เมกุเนี่ยตลกดีนะ
ซะโฮ : คำถามสุดท้ายคือ ถ้าได้สลับตัวกับเมมเบอร์ในนี้อยากจะเป็นใครเหรอ
เมกุ : โอ้… อันนี้จะเลือกอันไหนก็ไม่เวิร์คนะคะเนี่ย อย่างเช่น ถ้าเป็นอามิจังก็อยากจะตีลังกากลับหลัง เป็นโยโกยามะซัง อยากจะทานพวกข้าวกล่องสถานีให้เยอะๆ ไม่ก็อยากลองยะโฮซะโฮ แล้วก็พูด ฮุๆๆ ดู แล้วก็อยากเป็นคนที่ใสซื่ออ่อนโยนแบบซายายะด้วย แล้วก็อย่างโยโกยามะซังเนี่ยเป็นโอชิเมมในตอนนั้น…
ยุยฮัง : อย่าพูดว่าตอนนั้นเซ่ นี่แหนะ! (ทำท่าชก)
เมกุ : โอชิจริงๆ นะคะ การได้ (สลับร่าง) เป็นโอชิเมมตัวเองเนี่ยมีความสุขสุดๆ น่าดูเลยสินะคะ? อยากเป็นทุกคนเลยค่ะ (จับคางตัวเองตลอดเวลา)
ซายายะ : ใจดีสินะคะ
ยุยฮัง : เมกุใจดีกับเรื่องแบบนี้เนอะ ว่าแต่เจ็บคางเหรอ
เมกุ : เอ๊ะ ฉันจับคางเหรอคะ?
ยุยฮัง : จับสุดๆ
ซะโฮ : ส่งไปถึงสินะ (ที่ชกไป)
ซายายะ : ตลกจังเลย
แล้วก็จบ 48 คำถาม เลยถามความรู้สึกแต่ละคน
เมกุ : เป็นครั้งที่ฉันได้พูดเยอะ (จับคางตัวเองจนทุกคนขำ) …อ๊ะ ยังหลงเหลือ (ความเจ็บ) อยู่ค่ะ ดีใจเลยค่ะ แล้วก็ได้รับรู้อีกครั้งว่าทุกคนมองเมกุแบบนี้นี่เอง ดีใจเลยค่ะ สนุกเลยค่ะ ขอบคุณนะค
ยูอามิ : ฉันเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเมกุ เวลาที่อยู่ด้วยกันก็เลยนาน คิดว่าน่าจะรู้เกือบหมดแหละ แต่ก็เพิ่งได้รู้ว่าที่มาของโอเมกุมาจากโอจิซัง
ยุยฮัง : อ้าว ไม่รู้เหรอเนี่ย
ยูอามิ : ใช่ค่ะ ไม่รู้ค่ะ ก็เลยดีที่ได้รู้
ซายายะ : ฉันเองก็เพราะรุ่นใกล้กันเลยไปเที่ยวกับเมกุบ่อยๆ แต่ก็ได้รู้อีกด้านที่ไม่รู้จัก แล้วก็ได้เห็นมุมตลกๆ ของเมกุเยอะแยะ สนุกดีค่ะ และต่อจากนี้ก็อยากจะเห็นด้านใหม่ๆ อีกค่ะ
เมกุ : ขอบคุณนะ ซายายะ รักนะ (ทุกคนหัวเราะ)
ยุยฮัง : เพราะทุกคนรวมถึงฉันชอบเมกุมาก ก็เลยสนุกกัน แล้วก็ดีใจที่ได้รู้เรื่องที่เคยไม่รู้ แต่เรื่องที่ฉันเป็นโอชิเมมในสมัยก่อนนี่…
เมกุ : ปัจจุบันและต่อจากนี้ด้วยค่ะ! จริงๆ นะคะ!
ยุยฮัง : ภูมิใจที่บอกว่าชอบในสมัยอดีตน่ะนะ
เมกุ : ตอนนี้ก็ชอบค่ะ! (ยุยฮังหัวเราะ)
ยุยฮัง : ก็ดีใจที่ได้ใช้เวลากับเมกุที่ชอบมากน่ะนะ ขอบคุณค่ะ
เมกุ : ขอบคุณค่ะ! ตอนนี้และต่อจากนี้ก็จะโอชิค่ะ!
ซะโฮ : ตอนแรกก็คิดว่าให้ฉันเข้าร่วมด้วยจะดีมั้ยนะ เพราะทุกคนในนี้ดูสนิทกันอยู่แล้ว เป็นฉันจะดีเหรอ แต่ได้ใช้เวลาร่วมกันแล้วก็สนุกดี ดีที่ได้สนุกไปกับ ‘Megu World’ ล่ะค่ะ และคิดว่ายังมีด้านที่ยังไม่รู้อีก เพราะงั้นอยากจะรู้จักให้มากกว่านี้ค่ะ
เมกุ : ฉันดีใจที่ซะโฮซังมาออกค่ะ เพราะตอนนี้เป็นกัปตันที่คอยดูแลกันอยู่ ขอบคุณนะคะ!
ซะโฮ : ตอนนี้มีคำถามมา ระหว่างฉันกับโยโกยามะซังดีใจกับใครกว่ากัน
เมกุ : เอ๋!? คำถามขี้โกงอะค่ะ! ขี้โกงชะมัด จะให้ฉันทำยังไงเหรอคะ ดีใจที่ทุกคนออกนะคะ เลือกไม่ได้ค่ะ ฉันมีจุดที่เป็น DD เลยชอบทุกคน แต่ในนี้โยโกยามะซังถือว่าแตกต่างออกไปค่ะ
ซะโฮ : งั้นก็แปลว่าตอบไปทางโยโกยามะซังสินะ
เมกุ : ไม่ใช่ค่ะ หมายถึงเป็นแฟนคลับจริงๆ ค่ะ มีโปสเตอร์ติดไว้ด้วย ชอบมากขนาดนั้นเลยค่ะ (เผลอพูดเป็นรูปอดีตอีกแล้ว)
ยุยฮัง : ชอบมาก (รูปอดีต) น่ะนะ
เมกุ : ตอนนี้ก็ชอบมากค่ะ!
แล้วก็จบรายการแต่เพียงเท่านี้