‘Ne mo Ha mo Rumor’ ซิงเกิลที่ 58 ของ AKB48 ที่วางจำหน่ายไปวันที่ 29 กันยายน เป็นเพลงซิงเกิลในรอบพักใหญ่แถมยังเป็นซิงเกิลเดี่ยวเฉพาะเมมเบอร์ AKB48 ด้วย ทานิกุจิ เมกุ ที่อยู่ทำกิจกรรมวง AKB48 มาเป็นปีที่ 7 จนติดเซ็มบัตสึเป็นครั้งแรกได้สำเร็จใน ‘Ne mo Ha mo Rumor’ ขอบเขตของการทำงานเริ่มขยับขยายเรื่อยๆ ทั้งการแสดงนำ Special Drama ‘Medium Diver’ (TV Saitama) หรืออย่างละครเวที ‘Aku no Musume’ ใช้ชีวิตอย่างวุ่นไม่ขาดสายในแต่ละวัน
เธอกล่าวในช่วงที่ละครเวที ‘Aku no Musume’ จบไปได้หมาดๆ ว่า “การเล่นบท Germaine ที่ใช้ชีวิตอย่างอาจหาญเป็นอะไรที่หนักเอาการ พอผ่านการแสดงรอบสุดท้าย (12 ตุลาคม) มาได้ก็โล่งอกเลย” และปรากฏตัวด้วยชุดเดรสถักที่ดูเป็นผู้ใหญ่ โดยพูดไปพลางว่า “ไม่ได้พักซะนานเลยค่ะ! แต่ว่าการยุ่งเพราะเรื่องงานเป็นอะไรที่ดีใจแหละค่ะ!” ระหว่างที่ให้ฟังความรู้สึกในใจตอนนี้ไปพลาง
รู้สึกว่าได้พบเอกลักษณ์ใหม่ของพวกเราในฐานะของ AKB48 แล้วค่ะ
—–ระดับ Performance ที่เยี่ยมของทานิกุจิซังเป็นที่ยอมรับเลยนะครับ คิดว่าเป็นคนที่จะต้องได้รับเลือกเป็นเซ็มบัตสึเข้าสักวันเลยจับตามาตลอดเลย ช่วยบอกความรู้สึกตอนที่ได้รับเลือกเป็นเซ็มบัตสึหน่อยครับ
โอเมกุ : ขอบคุณนะคะ เข้าวง AKB48 มาจนในปีที่ 7 ถึงได้รับเลือกเป็นเซ็มบัตสึเมมเบอร์ครั้งแรก รู้สึกถึงจุดสำคัญของการไม่ยอมแพ้เลยค่ะ เมื่อหลายปีก่อนตอนฉันที่ไม่ได้เป็นกระทั่งเซ็มบัตสึเมมเบอร์ก็เคยพูดออกไปว่าอยากออกซิงเกิลเฉพาะ AKB48 แล้วรู้สึกเจ็บใจอยู่หลายอย่างค่ะ
แต่การออกซิงเกิลเฉพาะของ AKB48 ได้กลายเป็นจริงเช่นนี้ แถมเซ็มบัตสึเมมเบอร์ของเพลงใหม่ที่ว่าฉันยังได้รับเลือกอีก ดีใจที่สามารถลบล้างความรู้สึกเจ็บใจออกไปได้ค่ะ
—– สุดยอดเลยนะครับ เท่ากับว่าสิ่งที่ตัวเองคิดกลายเป็นจริงสินะ แล้วรู้สึกอย่างไรกับการวางขายซิงเกิลเฉพาะของ AKB48 แบบนี้กัน?
โอเมกุ : จนถึงตอนนี้ไม่มีโอกาสที่วัดฝีมือกันด้วยแค่เมมเบอร์ AKB48 เลยรู้สึกว่าไม่ค่อยเห็นเอกลักษณ์ของ AKB48 เท่าไหร่น่ะค่ะ
รู้สึกว่าวงน้องสาวแต่ละวงมีเอกลักษณ์แตกต่างกันไปอยู่แล้ว ส่วนครั้งนี้ก็มีซ้อมกันแค่ใน AKB48 และการพยายามจนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทำให้รู้สึกว่าได้พบเอกลักษณ์ของพวกเราเองเข้าแล้วค่ะ
—– คิดว่าพบเอกลักษณ์ของ AKB48 แบบไหนกันเหรอครับ?
โอเมกุ : ใส่ไม่ยั้ง! เด็ดเดี่ยว! ออกเหงื่อเต็มที่! รู้สึกว่าเอกลักษณ์ที่สัมผัสได้จากเหล่ารุ่นพี่ในสมัยที่ฉันยังเป็นแฟนคลับ AKB48 นั้น ออกมาให้เห็นใน AKB48 ตอนนี้แหละค่ะ ความตระหนักในการสร้างยุคใหม่ต่อจากนี้ด้วยตัวพวกเรานั้นมันงอกเงยขึ้นมาทีละอย่างๆ เพราะงั้นขนาดการซ้อมอันน่าเจ็บปวด ยังสามารถเข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับทุกคนแล้วสนุกกันมาได้เลยค่ะ รู้สึกว่าเนี่ยแหละวัยรุ่น (หัวเราะ)
ขนาดการซ้อมจำท่าเต้นยังรู้สึกสนุกอย่างมาก
—– ท่าเต้น Ne mo Ha mo Rumor โหดหินเอาสุดๆ รู้สึกว่าเป็นเพลงที่ต้องการสกิลขั้นสูงน่าดู แล้วเล่น Performance ออกมาด้วยความรู้สึกแบบไหนเหรอครับ?
โอเมกุ : เพราะเป็นเซ็มบัตสึเมมเบอร์คนหนึ่ง เลยทุ่มเทในฐานะเมมเบอร์คนหนึ่งที่จะคอยนำ AKB48 ค่ะ ตระหนักเพื่อให้เต้นออกมาอย่างยืดอกมั่นใจค่ะ ถึงจะยากพอควรขนาดที่ชวนรู้สึกว่าจะตามเมมเบอร์คนอื่นทันรึเปล่า แต่ดีใจกับการได้รับเลือกเป็นเซ็มบัตสึเมมเบอร์จนขนาดการซ้อมจำท่าเต้นยังรู้สึกสนุกอย่างมากเลยค่ะ
ตอนเล่นจริง เพราะหลั่งสารอะดรีนาลินออกมา เลยเต้นออกมาโดยสามารถยกขาได้ตรงกับความรู้สึกได้ดีกว่าที่คิดไว้เลยค่ะ! อยากออกรายการเพลงและอยากจะเต้นให้ดีขึ้นในแต่ละ Performance ค่ะ!
โอคาดะ นานะซัง, ฮอนดะ ฮิโตมิซัง โยโกยามะ ยุย (โยโกะจัง) ซัง เต้นเก่งสุดๆ แถมยังคอยนำทุกคนอยู่ข้างหน้า ฉันเองก็พึ่งพาไปด้วยค่ะ! สักวันหนึ่งอยากที่จะสามารถเคียงบ่าเคียงไหล่ได้ค่ะ!
—–ในการขึ้นแสดงรายการเพลงคำนึงถึงอะไรบ้างเหรอครับ?
โอเมกุ : เพราะตำแหน่งยืนอยู่ริมสุดแถวหลังสุด ตอนที่มีกล้องตัดมาบ้าง ก็เลยคำนึงว่าจะสามารถเล่นออกมาแบบหลงเหลือภาพประทับใจได้รึเปล่าค่ะ แม้เป็นเพียง 1-2 วินาทีก็ตาม แต่สำหรับฉันแล้วรู้สึกว่าเป็นการชี้ชะตาเลย ฉะนั้นพยายามแบบลองผิดลองดูถูกดูค่ะ
ตอนที่แสดงรายการเพลงวันก่อนเอง ตรงอินโทรครั้งที่ 2 ท่อน “Nothing! Nothing! Nothing! Nothing!~” ฉันมีติดกล้อง เลยเหวี่ยงแขนขวาข้างที่ชูนิ้วโป้งกับนิ้วชี้แบบยกใหญ่ แล้วทำนิ้วให้ดูเหมือนยกปืนยิงขึ้นฟ้าแบบปัง! ตรงฟากซ้ายของใบหน้า (ระหว่างที่ร้องไปพลาง) แหละค่ะ! หวา พอมาทำดูอีกรอบแล้วน่าอายจัง〜
ตัวเองก็คิดอยู่เหมือนกันว่าทำให้หลงเหลือความประทับใจได้ดี แล้วแฟนๆ ที่ชมรายการก็บอกกันว่า “เด่นเลยแหละ!” ค่ะ เพื่อนสมัย ม.ต้น ก็ทักมาแล้วชมว่า “เมกุเท่สุดๆ เลย” ดีใจสุดๆ เลยค่ะ
สถานที่ถ่ายทำเพียงคนเดียวโดยไม่มีเมมเบอร์ AKB48 ครั้งแรก
—–พอได้รับเลือกเป็นเซ็มบัตสึเมมเบอร์แล้ว คิดว่าจะยุ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งในนั้นก็มีการแสดงละครพิเศษ Medium Diver ในฐานะนักแสดงนำด้วยสินะครับ
โอเมกุ : เคยได้แสดงนำตามเรื่องสั้น ‘AKB48 Horror Night Adrenaline no Yoru’ (TV Asahi) และ ‘AKB Love Night Koi Koujou’ (TV Asahi) มาด้วยค่ะ
แล้วการได้แสดงละครแบบจริงๆ จังๆ แถมยังเป็นสถานที่ถ่ายทำเพียงคนเดียวโดยไม่มีเมมเบอร์ AKB48 เนี่ยเป็นครั้งแรกเลยค่ะ คิดว่าการแสดงละครเป็นอะไรที่ยังห่างไกล เลยตกใจเพราะไม่คิดเลยว่าจะมีข้อเสนอละครมายังตัวเองแบบนี้ ตอนแรกไม่ได้คิดถึงเรื่องบทนำ เอาแต่รู้สึกว่า “แย่แล้ว! ทำยังไงดี!” ในช่วงที่เตรียมใจในการเผชิญกับการถ่ายละครค่ะ
ละครเนี่ย แตกต่างกับละครเวที เป็นการพูดคุยด้วยความรู้สึกเหมือนการพูดคุยทั่วไปเหมือนๆ แบบเดียวกับการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ ก็เลยคำนึงถึงการพูดคุยอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ ถ้าเล่นใหญ่ไปหน่อยก็จะกลายเป็นอิมเมจแบบละครเวที ตรงนี้ที่ต่างกันสินะคะ
—–แล้วยังได้แสดงละครเวที ‘Aku no Musume’ มาด้วย Germaine มีทั้งฉากดวลดาบก็เยอะ แถมยังเป็นบทบาทที่ใช้ชีวิตเปี่ยมด้วยอารมณ์อีกต่างหาก พอแสดงดูแล้วเป็นยังไงบ้างเหรอครับ?
โอเมกุ : สไตล์ชุดมีแค่ของตัวเองที่ต่างออกไป สวมชุดเกราะสีแดงแล้วดูเท่ ก็เลยดีใจค่ะ ครั้งนี้ก็เป็นเรื่องราวอันหนักอึ้งที่คุณพ่อโดนฆ่าเลยต่อสู้โดยที่คิดจะแก้แค้น Riliane (ไอโซเมะ คาเรน จาก ZOC แสดง) ซึ่งตอนที่คิดว่าล้างแค้นสำเร็จ แต่กลับกลายเป็นว่า Allen (มิชินะ รุกะ แสดง) ที่เป็นน้องชายถูกฆ่าแทน สุดท้าย กระทั่งตัวเองก็โดนปรักปรำจนถูกฆ่า แสดงไปโดยขณะที่คิดไปพลางว่าเป็นเรื่องราวแสนเจ็บปวดไปจนถึงจิตใจอย่างไม่รู้จะว่าอย่างไรดีเลยละค่ะ
ดีใจที่ตัวเองได้มีส่วนร่วมกับมิวสิคัลที่เกี่ยวข้องกับเพลงที่ติดในช่วง ม.ต้นอย่าง ‘Aku no Musume’ ของ Kagamine Rin และ ‘Aku no Meshitsukai’ ของ Kagamine Len อย่างมากเลยค่ะ
Germaine เป็นทัพหน้าเลยมีฉากต่อสู้เยอะ ทั้งบทพูดและดวลดาบก็เลยเยอะ แสดงด้วยความตื่นเต้นพ่วงความรู้สึกตึงเครียดในทุกครั้ง เพราะงั้นตอนที่จบการแสดงรอบสุดท้ายมาได้อย่างสวัสดิภาพทำให้รู้สึกว่าโล่งอกจริงๆ เลยค่ะ
เวทีแคบแล้วยังมีซีนต่อสู้ด้วยคนจำนวนมาก ทุกวันมีเล่น 2 รอบจึงเป็นอะไรที่วัดพละกำลัง เลยพยายามที่จะกลับบ้านแล้วรีบนอนให้ไวที่สุดค่ะ
หลังจากได้เคยได้ลองเล่นฉากที่มีการดวลดาบจริงๆ จังๆ ในละครเวที ‘Shoujo YoRHa Ver1.1a’ ไปแล้ว ‘Aku no Musume’ ครั้งนี้ก็เลยเป็นครั้งที่ 2 แต่ก็ทำให้รู้สึกว่าฉากดวลดาบสนุกจัง! ฉันชอบฉากดวลดาบจัง! อยากเล่นให้อีกเยอะๆ! ค่ะ
อยากจะชาเลนจ์หลายๆ อย่าง แล้วรู้จักโลกกว้างให้มากขึ้น
—–ได้รับเลือกเป็นเซ็มบัตสึเมมเบอร์เพลงใหม่ แถมยังได้แสดงนำละคร แสดงละครเวที ใช้ชีวิตแต่ละวันอย่างยุ่งไม่ขาดสาย แล้วสถานะในตอนนี้รู้สึกอย่างไรเหรอครับ?
โอเมกุ : ในส่วนที่ได้รับความคาดหวัง ก็เลยรู้สึกกดดันพอสมควรเพราะหากตอบสนองความคาดหวังไม่ได้จนโอกาสนี้ก็อาจจะหายตามไปค่ะ
—-12 พฤศจิกายนเป็นวันเกิดสินะครับ อยากทำให้เป็นปีแบบไหนเหรอครับ?
โอเมกุ : อายุ 22 ปีเป็นปีที่ได้รับโอกาสหลายอย่างอย่าง อาทิ การได้รับเลือกเป็นเซ็มบัตสึเมมเบอร์ ‘Ne mo Ha mo Rumor’ อายุ 23 ปีเลยอยากให้เป็นปีที่สามารถทำโอกาสนี้กลายมาเป็นรูปร่างได้ค่ะ
อยากจะขึ้นแสดงละครเวทีให้มากยิ่งขึ้น อยากจะแสดงในผลงานภาพเคลื่อนไหว (*ละคร, ภาพยนตร์) ให้มากกว่านี้ แล้วก็ถึงจะเป็นอะไรที่ดูยากมาก แต่ก็อยากลองทำงานนางแบบดูด้วยค่ะ อยากจะชาเลนจ์หลายๆ อย่างมากขึ้น แล้วเพิ่มพูนประสบการณ์ให้เยอะขึ้นไปอีกค่ะ รู้สึกว่าโลกที่ตัวเองเห็นในตอนนี้ยังแคบนัก ครั้งนี้พอได้แสดงละครเวที ‘Aku no Musume’ แล้วรู้สึกแบบนั้นค่ะ
การได้ทำงานเช่นครั้งนี้ ทุกครั้งที่ได้เจอกับผู้คนมากมายก็จะรู้สึกว่าโลกที่ผ่านมามันช่างคับแคบเหลือเกิน เลยอยากจะรู้จักโลกกว้างให้มากกว่านี้ค่ะ
—–ได้แสดงคอนเสิร์ตจบการศึกษาของ โยโกยามะ ยุย (ยุยฮัง) ซังด้วยสินะครับ
โอเมกุ : ฉันเป็นแฟนคลับของโยโกยามะ ยุยซังจาก Not Yet จนตกหลุมอย่างจัง แล้วก็ชอบมากมาตลอดนับแต่นั้นค่ะ หลังจากที่ฉันเป็นเมมเบอร์ AKB48 เองก็รู้สึกดีใจสุดๆ ที่ได้เห็นโยโกยามะซังที่ชอบมาตลอดตั้งแต่สมัยเป็นแฟนคลับค่ะ
——ขอสักประโยคถึงโยโกยามะ ยุยซังสักหน่อยครับ
โอเมกุ : โยโกยามะ ยุยซังคะ หลังจากจบการศึกษาแล้วก็จะโอชิไปตลอดค่ะ! โอชิของฉันคือโยโกยามะซังค่ะ คอยไล่ตามโยโกยามะซังแล้วพยายามมาตลอด นับจากนี้ก็จะคอยเชียร์ความฝันของโยโกยามะซังในฐานะแฟนคลับคนหนึ่งค่ะ!
—–ตั้งตารอผลงานของทานิกุจิซังหลังจากนี้มากยิ่งขึ้นเลยครับ ฝากข้อความถึงแฟนๆ หน่อยครับ
โอเมกุ : แฟนๆ ทุกคนที่คอยสนับสนุนกันมาตลอดคะ นับจากนี้ฉันก็อยากจะสั่งสมประสบการณ์เพื่อให้สามารถเป็นคนที่ดีเยี่ยมให้ได้ค่ะ เพราะงั้นช่วยเฝ้าดูการชาเลนจ์นี้อย่างอบอุ่นกันด้วยนะคะ จะพยายามเพื่อเป็นไอดอลที่ทำให้รู้สึกได้ว่าคอยตามเชียร์แล้วสนุกค่ะ! ทุกคนคะ ช่วยรักเพลง ‘Ne mo Ha mo Rumor’ กันด้วยนะคะ!