สำหรับผู้ท้าชิงเอสของรุ่นใหม่ AKB48 คงไม่ผิดตัวแน่
โดยเราจะมากล่าวถึงตั้งแต่ช่วงวัยเด็กมาจวบจนถึงปัจจุบันของหญิงสาวคนนี้ที่ยังไม่ได้รับการเป็นที่รู้จักในวงกว้างกัน
ความฝันในวัยเด็กคืออะไรครับ?
“ตอนพิธีจบการศึกษาของโรงเรียนอนุบาล คนที่ได้รับรางวัลจะต้องออกมาพูดถึงความฝันของตัวเอง แล้วฉันก็พูดไปว่า “ความฝันของฉันคือการเป็นไอดอลค่ะ!” จากนั้นก็ถูกพวกคุณแม่รอบๆ ตัวหัวเราะกันใหญ่เลยล่ะค่ะ ตอนนั้นก็ถึงกับท้อแท้เลยว่า “เอ๋ เป็นความฝันที่น่าหัวเราะเยาะเหรอเนี่ย…….” ล่ะค่ะ (หัวเราะ)”
เป็นเด็กแบบไหนเหรอครับ?
“เป็นเด็กติดหม่าม้าค่ะ ดูเหมือนว่าเวลาคุณแม่จะออกไปไหนก็จะร้องงอแงราวกับสิ้นโลกว่า เมกุจะไปด้วย!! แบบนี้ค่ะ พอขึ้นชั้นประถมก็เป็นเด็กเก็บตัว เสียงก็เบา เวลาเรียนก็จะยกมือแล้วพูดอะไรกับเขาไม่ได้ เป็นเด็กที่ไม่โดดเด่นเท่าไหร่ล่ะค่ะ ส่วนเวลาพักก็จะชอบวาดรูปเล่นกับเพื่อนค่ะ”
ไม่ได้สานต่อความฝันที่อยากจะเป็นไอดอลต่อ?
“ช่วงประถมอยากเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์ค่ะ ตอนนั้นทามาก๊อจจิเป็นที่นิยม เพราะมีเกมสนุกๆ ให้ลองอาชีพแฟชั่นดีไซเนอร์ได้ด้วยน่ะค่ะ (หัวเราะ) แต่ว่าพอตอน ป.6 เพลง Heavy Rotation เป็นที่ฮิตติดลมบน แล้วตอนพิธีจบการศึกษาชั้นประถมก็ทำตาม AKB48 โดยสวมกระโปรงลายตารางหมากรุก (Gingham Check) ด้วยกันกับเพื่อนค่ะ”
จากนั้นก็เลยได้พบความฝันที่อยากเป็นไอดอล?
“ค่ะ แต่ว่าเป็นเด็กชมรมจนถึงตอน ม.1 ค่ะ ตั้งแต่ ป.2 ก็เริ่มเรียนยิมนาสติกโดยใช้ความยืดหยุ่นของร่างกายที่มีติดตัวมา แล้วก็เลือกสอบเข้าโรงเรียน ม.ต้น ที่มีชมรมยิมนาสติกน่ะค่ะ แต่ว่าช่วงระหว่างอยู่ ม.2 ก็คิดว่าในอนาคตอยากเป็นแบบ AKB48 เลยเริ่มหาพวกรับสมัครออดิชั่นของค่ายวงการบันเทิงค่ะ แล้วตอนนั้นก็มีประกาศว่ารับสมัครรุ่น 15 จาก “AKBINGO!”พอดี ก็เลยลงสมัครออดิชั่นเป็นครั้งแรกค่ะ”
ตอนฤดูหนาว ม.2 ผ่านการคัดเลือกแล้วก็ตาม แต่เนื่องจากโรงเรียนตอน ม.ต้น ห้ามทำกิจกรรมใดๆ เกี่ยวกับวงการบันเทิง พอหลังจากขึ้น ม.ปลาย ก็เริ่มสตาร์ทอย่างเป็นทางการสินะครับ เดือนเมษายนที่ผ่านมาก็เป็นนักเรียน ม.6 (ม.ปลายปีที่3) พร้อมๆ กับงานที่เข้าสู่ปีที่ 3 พอดี
“สเตจใหม่ทีม A “M.T. ni Sasagu” เริ่มตั้งแต่กุมภาพันธ์ มีไตเติ้ลว่า “M.T.” ซึ่งหมายถึงทาคาฮาชิ มินามิซังก็ตาม แต่ชื่อย่อของฉันเองก็ M.T. เหมือนกันนะคะ เพราะงั้นหลังจากประกาศไตเติ้ลชั่ววูบนึงก็เผลอคิดไปว่า “ทานิกุจิ เมกุนี่นา?” (หัวเราะ) อะไรแบบนี้ก็สมกับเป็นตัวเองสินะคะ ตรงที่ไม่ได้เรื่อง เอ๋อๆ แบบที่มักโดนพูดบ่อยๆ”
กลับกัน คิดว่า “ตัวเองที่แท้จริง…” เป็นยังไง?
“อืม… ที่สเตจบนเธียเตอร์ได้ตำแหน่งอันเดอร์ของเซนเตอร์บ้าง มุมมองที่เห็นจากตำแหน่งเซนเตอร์เนี่ย จะถูกแฟนๆ ที่อยู่ตรงหน้ากดดันสุดๆ ล่ะค่ะ อยากจะไม่พ่ายแพ้ความกดดันให้ได้ ต่อจากนี้อยากจะเป็นกำลังในฐานะ 1 ในเด็กรุ่นใหม่ที่จะนำ AKB48 ก้าวต่อไปค่ะ แล้วก็ยังไงก็อยากตั้งเป้าเป็นเซนเตอร์แหละค่ะ! ……พูดออกไปซะได้ น่าอายชะมัด~“
เพื่อจะได้ยืนตำแหน่งเซนเตอร์ สิ่งที่ต้องทำคือ?
“คิดว่าต้องสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองค่ะ อย่างตอน “โรงเรียนมาจิสึกะ 5” ได้รับบทหัวหน้าของบทตัวร้าย แล้วกระแสตอบรับออกมาดี ก็เลยมีความมั่นใจขึ้นมาล่ะค่ะ แต่ว่าหลังจากนั้นได้เล่นเพลงโซโล่เป็นครั้งแรกที่สเตจทาฮาระซัง (สเตจพิเศษที่โปรดิวซ์โดย ทาฮาระ โซอิจิโร่ นักเขียนวิจารณ์การเมือง) ก็รู้สึกเจ็บใจขึ้นมาล่ะค่ะ รู้สึกกังวลว่า “ทำยังไงดี…….” มันแสดงออกมาไม่ได้อย่างที่ใจคิดค่ะ เมื่อวานหลังจากจบสเตจ ชิโนบุซังก็ให้คำแนะนำมาว่า “แค่เมกุมีความมั่นใจให้มากกว่านี้ก็สามารถที่จะโดดเด่นในสเตจได้แล้ว” น่ะค่ะ แต่เดิมเป็นคนขี้ประหม่า เพราะงั้นอาจจะยากหน่อยก็ตาม แต่อยากจะไม่แพ้ความกังวลและความประหม่าเหล่าค่ะ!”
ซิงเกิ้ลล่าสุด “Tsubasa wa Iranai” มุไคจิ มิอง เพื่อนรุ่นเดียวกันได้เป็นเซนเตอร์ครั้งแรกสินะครับ
“สักวันฉันเองก็อยากจะยืนตำแหน่งนั้นเหมือนกัน แต่ว่าการที่มี่องได้รับเลือกนั้นรู้สึกดีใจจากใจเลยล่ะค่ะ เพราะการที่มีเซนเตอร์เกิดขึ้นได้จากคนของอิจิโกะจังส์ (ชื่อเรียกรุ่น15) ที่อยู่ล่างสุดได้นั้น ก็จะทำให้เด็กรุ่นใหม่ทุกคนเองฮึดที่จะมุ่งไปข้างหน้าต่อจากนี้ล่ะค่ะ”
ความฝันในตอนนี้ ยังไงเซนเตอร์?
“ความฝันในอนาคตจริงๆ คือการเป็นนักแสดงหญิงค่ะ ตอนที่ได้เล่น “โรงเรียนมาจิสึกะ 5” รู้สึกสนุกสุดๆ เพราะงั้นอยากจะไล่ตามความฝันนักแสดงหญิง ไปพร้อมๆ กับการพยายามต่อไปใน AKB48 ค่ะ”
ก่อนที่จะเป็นนักแสดงหญิง ก็ต้องเริ่มจากเซนเตอร์สินะครับ
“ค่ะ……. น่าอายชะมัด~ ปกติแล้วตัวเองเป็นคนไม่พูดว่า อยากเป็นเซนเตอร์ นะคะ จริงๆนะคะ! เพราะงั้นอย่าเขียนลงไปนะคะ~ ไม่งั้นก็รบกวนเป็นประมาณว่า “ถ้าสักวันได้เป็นเซนเตอร์ก็คงดีน้า” แทนเถอะค่ะ…..(เหงื่อตก)”